~~ ลูกลิง กลิ้งไปกลิ้งมา ~~

Monday, May 30, 2005

NYC

ไป NYC มา สนุกดี ขับรถมาราธอนมากๆ 8 ชม.ไป 7 ชม.กลับ (ขับไปนิดเดียวทำบ่น คนขับจริงๆเค้ายังไม่บ่นเลย )

ตอนอยู่ NYC ก็กินกับเดินทั้งวันทั้งคืน (วันของเราเริ่มประมาณเที่ยงอ่ะนะ)

วันแรก เที่ยงไปกินร้าน Serendipity เป็นร้าน chocolate อร่อยที่ณัฐบอกว่ามันดังมาก พอไปถึง

อืมม.. ร้านเล็กมาาาก คนเยอะมาาาก มืดมาาาก และอาหารแพงมาาาาาาก

หลังจากดูเมนูไปได้ 10 นาที และหันซ้ายหันขวาดูรอบๆโต๊ะ (อาหารแพงอ่ะ จะสั่งอะไรให้เข้ากับเงินเดืิอนอันน้อยนิดดีน้า <= ยังมีหน้าไปกินร้่านหรู เอาน่ะ ขอหน่ิอย ครั้่งหนึ่งในชีวิตของคนยาก) ก็ตกลงกันว่าสั่งมา 2 อย่าง และน้ำ chocolate ปั่น มากินกัน 4 คน

แต่ขอโทษค่ะ 2 อย่างนั่นน่ะ ของหวานทั้งหมดค่ะ

เพราะราคาของคาวมันบาดใจเหลือเกิน เอาวะ สั่งอะไรก็เหมือนกันนั่นแหละ ดี จะได้เก็บท้องไปกิน buffet ตอนเย็นด้วย สนนราคาตกคนละประมาณ $15 อ่ะๆ คุ้มน่ะ

จากนั้นก็ไปเดิน Central Park และ MET (The Metropolitan Museum of Arts) ของใน MET เยอะมากๆ ผู้ร่วมทาง 2 คนอยากไปดูภาพ Monet มากๆ เราว่าก็สวยดีนะ แค่เราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงดังขึ้นมาได้ อืมม หรือเรายังพิศไม่เต็มที่นะ แต่ก็นะ เราไม่สามารถทำงานศิลป์ออกมาได้อย่างเค้าแน่ๆ เำพราำะฉะนั้่นเค้าก็สุดยอดมากๆเลยค่ะ

หลังจากเดินจนขาลากแล้ว ตอนเย็นไปกินร้าน Minado เป็นบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น ก็อร่อยดีนะ มีให้เลือกเยอะดี แต่ปัญหาก็คือ เราไม่เคยกินบุฟเฟต์คุ้มเลย ก็เอาความหลากหลายเข้าว่า แต่ก็จริงนะ เราชอบแบบชิมโน่นนิดนี่หน่อย มีความสุขดี เพราะเราเป็นคนเบื่อง่ายอ่ะ กินอะไรซ้ำๆเยอะำๆมันจะไม่อยากกิน ก็ถือว่าจ่ายค่าความหลากหลายไป $26 + tax

อ่อ เจอหยกด้วยที่ร้าน Minado เนี่ย หยกเป็นเพื่อนรุ่นเรานี่แหละตอนป.ตรี เค้าเรียนสถาปัตย์ ตอนนี้ทำงานอยู่ NYC โลกเราก็แปลกนะ อยู่ CMU ไม่เคยเจอ ดันไปเจอที่ NYC

หลังจากนั่งอืดอยู่ที่ร้าน จนโต๊ะที่อยู่รอบข้างเปลี่ยนคนมากินไปแล้ว ก็เดินออกมาผ่าน Korean town แวะซื้อหนม หาซื้อ Soju สาเกเกาหลี จะเอามาฝากเพื่อน ก็หาไม่เจอ ก็เลยเดินเรื่อยไปถึง Time Square ณัฐว่าคืนนี้ปวดขาแน่ เดินมาราธอนขนาดนี้ เลยแวะซื้อยา Bengay (ไม่ใช่ "เป็นเกย์" นะ) แล้วเตร่อีกแป๊บก็กลับโรงแรม

วันที่ 2 เราก็เริ่มด้วยการกินติ่มซำ ท่านบริกรที่เข็นรถเข็นนี่ แทบพูดอังกฤษไม่ได้เลยอ่ะ (กะขายแต่คนจีนหรือเฮีย คนชาติอื่นต้องชี้เอา) โชคดีที่ผู้ร่วมเดินทางคนนึงพูำดจีนได้คล่อง เลยได้ของมาิกินตามต้องการ (บวกกับการชี้ๆเล็กน้อย) แต่ของอร่อยนะ คุ้มกับ $15 จริงๆ มีเหลือด้วยนะ เราก็เลยยัดใส่รถณัฐไป ฮี่ๆ

กินเสร็จก็เิดินๆ Chinatown, Little Italy (เค้ามีเทศกาลอะไรไม่รู้ มีแข่งกินหอยนางรมด้วยอ่ะ) แล้วก็เดินเที่ยว Soho ที่ Soho มีแต่ของ brandname แพงๆทั้งนั้น ก็เลยไม่ซื้ออะไรเลย ฮ่าๆ

่แปลกใจตรงที่ว่าร้านขายของแพงทั้งนั้น แต่ที่ตัวตึกและถนนมันโทรมและสกปรกมากๆเลยอ่ะ เหมือนกับแบบ พอเดินเข้าไปในร้่านกลายเป็นอีกเมืองนึง เหมือนประตูร้่านเป็นกระจกทวิภพ ผลุบเข้าผลุบออกระหว่าง 2 ภพ

ที่นี่ ตรงข้างทางเค้ามีขายงานศิลป์ด้วย เจอภาพนึงสวยมากๆ ใช้สีน้ำมัน กับเอามีดบากสีเอา มันเป็นนูนๆออกมา รูปต้นไม้สวยมากๆ เราว่าเทียบได้กับรูป Monet เลยนะในสายตาอันต้อยต่ำของเรา แหม ถ้าเงินเหลือใช้ คงจะซื้อเอามาเชยชมอ่ะนะ เพราะราคามัน $1800 (จะขายได้ไหมเนี่ย <= ดูดิ๊ ไปแช่งเค้าอีก)

เดินเสร็จก็ 5 โมงละ มาเอารถที่จอดไว้ คนบริการที่จอดรถมารยาทแย่มาก ตั้งแต่เอารถเข้ามาจอดละ อืม แย่จริงๆ สงสัยเห็นรถเรา้เป็น Chevy มิใช่ Mercedes หรือรถสูงชั้นใดๆ ไม่ต้องเอาทิปแล้วกันนะหนู ไปรอทิปจาก Mercedes เถอะลุง

อ่า หมดแล้ว เวลา get away จาก CMU กลับมาถึงบ้านก็ตี 1 แล้ว สลบไปเลย

เหนื่อย แต่สนุกดีค่ะ

Friday, May 20, 2005

Success

น้องวาวปี 2 แปะชื่อ MSN ของเค้าว่า

ความสำเร็จเป็นครูที่ไม่เข้าท่า เพราะคอยหลอกคนฉลาดให้หลงคิดว่าตัวเองไม่มีวันแพ้
- Bill Gates

ชอบมากๆ
ไม่คิดว่าจะมีคนคิดอย่างนี้ด้วยแฮะ

พออ่าน แล้วคิดว่า อืม ก็จริง แต่สำหรับคนที่ทนงตนเท่านั้น
แล้วเราก็คิดว่าคนที่เป็นอัจฉริยะที่ยังเยาว์วัย หรือยังเยาว์ในวุฒิภาวะหลายๆคนคงมีความทนงตนอยู่ไม่น้อย

ยิ่งปีนขึ้นสูงเท่าไหร่ เวลาตกลงมายิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น เพราำะฉะนั้นเวลาประสบความสำเร็จแล้วเนี่ย เราไม่ควรจะทนงตน ไม่ควรจะประมาท (ไม่ใช่ว่าเราเป็นอัจฉริยะนะ เราหมายถึงทุกคนนั่นแหละ)

ตกตึกสูงๆเนี่ย ศพคงไม่น่าพิศเท่าไหร่

สงสารปอเต็กตึ๊งอ่ะ...

Monday, May 02, 2005

เหนื่อย

มีคนเคยบอกว่า รักคนที่เขารักเราดีกว่า

เพิ่งเข้าใจวันนี้เอง เพราะเราเหนื่อยใจเหลือเกิน ก็คงพอแล้วล่ะ สุขภาพจิตเสียหมด หมอลิงคงไม่รับรักษาถ้าคิดมากหัวเถิกไปกว่านี้

ก็ขอให้เค้าคนนั้นโชคดีแล้วกัน เราคงไม่ไปขอร้องให้เค้าเข้ามาในชีวิตเราอีกต่อไปแล้ว คิดซะว่าเราคงไม่ดีพอสำหรับชีวิตเค้า

แล้วเราก็คิดว่าเราดีพอที่คนอื่นๆในชีวิตเราจะยังคบเราต่อไป เราควรจะไปทุ่มเทให้คนที่มีค่ากับเราและเห็นค่าของเรามากกว่า จริงไหม

ยังไงก็ตาม เราก็จะเก็บแต่ความทรงจำดีๆไว้แล้วกันนะ

ไม่อยากลืม...
ไม่อยากเสียดายเวลา...


เหนื่อย
By Double U

ปลดปล่อยเธออย่างที่ขอ จะไม่ฉุดเธอต่อไปแล้ว
ปลดปล่อยใจเธอเพื่อให้เธอไป ได้ตามต้องการ
ตัดขาดกันจากวันนี้ จะดีไม่ดีช่างมัน
ไม่อยากดึงดันไม่อยากวิงวอน ให้เปลืองน้ำตา

เพราะฉันเหน็ดเหนื่อย ที่ต้องเอาหัวใจดึงเธอนั้นไว้
และเพราะฉันเบื่อหน่าย เบื่อที่เธอทำผิดเรื่อยมา
ไม่เอาอีกแล้ว ฉันยอมถอดใจ เพราะฉันจนปัญญา
ยิ่งดึงยิ่งรั้งฉันยิ่งอ่อนล้า..

-- ฉันเหนื่อย --

เหน็ดเหนื่อยเพื่อสิ่งที่หวัง หากทุกอย่างเป็นอย่างที่ฝัน
เหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนไหว เท่าไรเท่ากัน
อุตส่าห์ยอมอยู่เสมอ อภัยให้เธอมานาน
ยิ่งอยู่กันไปก็ยิ่งเปลืองใจ ฉันคงต้องลา

เธอจะไปหาเขา นับแต่นี้ไปได้สบาย เธอจะไปหาใคร
ไม่ต้องเสียสมองมาสร้างนิยาย ฉันหวังว่าคงเป็นทางออก ที่น่าพอใจ
เมื่อไม่ต้องมีใคร ให้ลำบากใจอย่างทุกวัน

เพราะฉันเหน็ดเหนื่อย ที่ต้องเอาหัวใจดึงเธอนั้นไว้
และเพราะฉันเบื่อหน่าย เบื่อที่เธอทำผิดเรื่อยมา
ไม่เอาอีกแล้ว ฉันยอมถอดใจ เพราะฉันจนปัญญา
ยิ่งดึงยิ่งรั้งฉันยิ่งอ่อนล้า..

-- ฉันเหนื่อย --