~~ ลูกลิง กลิ้งไปกลิ้งมา ~~

Thursday, March 31, 2005

ปลาตัวโต

ปลาอะไรเอ่ย กินได้นานที่สุด
..
..
..
..
..
..
ปลาที่เราได้มาแล้วแบ่งให้คนอื่นกินไง

เอามาจากหนังสือจำชื่อไม่ได้ คนแต่งก็จำไม่ได้ คือไม่แน่ใจว่า ปภัสสร เสวิกุล หรือเปล่า เป็นหนังสือเด็ก อ่านตอนมัธยม ชอบคำตอบนี้มาก

คมจริงๆ :)

อาหารจาก LA

วันนี้ได้รับกล่ิองอาหารจากลุงโบ้กับป้าใจที่ LA ลุงโบ้เป็นเพื่อนกับพ่อและแม่ตอนที่เค้าเรียนที่ขอนแก่น ตอนที่พ่อกับแม่มางาน grad เราเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ำไปเที่ยวบ้านลุง แล้วเค้าก็พาไป Las Vegas กับ Grand Canyon เมื่อปีใหม่นี้แม่มาหาเรา เราก็ไปเที่ยว CA อีก ลุงเค้าไม่ว่างเลยซื้อทัวร์ให้ไป San Francisco กับ Yosemite แทน แล้วป้าใจก็สอนทำฝอยทองด้วย (ต้องไปเรียนกับป้าเพิ่ม เผื่อได้สูตรขนมอย่างอื่นมาิีิีอีก)

อืม สรุปว่าเค้าบอกจะส่ง Pocky มาให้ เราเลยรบกวนเค้่าส่งขนมอื่นมาด้วย พวกปลาหมึกกับปลากรอบนิดหน่อย พอเราไปรับกล่องที่ UC Mailroom กล่องมันใหญ่มาก อุึแม่เจ้า ส่งอะไรมาเนี่ยเยอะขนาดนี้ พอเปิดดูก็เลย อ่า.. อืม..

โอ้ววว พระเจ้าจอร์ช(ใครฟะ) มันยอดมาก
...
Pocky 20 กล่อง ปลาหมึกบดแบบเปียก 2 ถุง แบบแห้ง 2 ถุง ปลาชิ้งช้างอีก 4 ถุง
...
อยู่ไปได้อีก 3 ปี (เว่อร์น่ะ :P) แต่เยอะจริงๆ เริ่มเกรงใจ ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย เลยรีบ email ไปขอบคุณเป็นการใหญ่ เรานี่โชคดีจริงๆแฮะ เหมือนสวรรค์ส่ง supply มาให้ ขอบคุณมากๆอีกทีนะคะ เดี๋ยวของหมดแล้วจะไปรบกวนอีกรอบ

แต่กลัวจะได้รบกวนอีกในไม่ถึงอาืทิตย์น่ะสิคะ




ตัวละคร:
ลุงโบ้ เป็นเพื่อนพ่อ เรียนพยาบาลด้วยกัน ตอนนี้เค้่่าทำงานอยู่แผนกหัวใจที่โรงพยาบาลใน LA เค้าสอนเราเล่นสกีด้วยแหละ ดีมากๆเลย อดทนสูงมาก เำพราำะตอนแรกเราเล่นไม่ได้เลยจริงๆ ล้มทุกๆ 5 เมตร กว่าจะลุกได้เนี่ยก็อีก 10 นาทีถัดมา เราก็ไปฉุดเค้าล้มอีก แต่เค้าไม่ give up กับเรา เราเลยเล่นได้เลย
ป้าใจ ภรรยาลุงโบ้ เค้าเป็นคนทำขนมที่โรงเรียนใน LA ทำกับข้าวอื่นก็อร่อยมากๆ ใจดีสุดๆ เค้าสอนเราทำฝอยทอง อร่อยดี แล้วเค้าก็ทำขนมชั้นให้เราตอนปีใหม่ด้วย

Wednesday, March 30, 2005

เก้าอี้ของว่าน

วันนี้พ่อบอกว่า แม่ซื้อเก้าอี้เด็กให้ต้นว่าน ว่านจะได้มากินข้าวด้วยกันได้ โห... เด็กอายุยังไม่ถึงปีเนี่ยนะ อืม.. เห่อกันเป็นกิจลักษณะเลยจริงๆแฮะ

งอนๆๆๆ อิจฉาเด็ก

zzz

Just now, I went to sleep on a sofa in a lounge. The sofa is very dirty (กบบอกว่านอนดมก้นคน อืม ดีนะที่ตื่นแล้ว ไม่งั้นคงหลับไม่ลง), but it is very comfy.. so there I go, zzzz

1 hour has passed..

I woke up without an alarm clock. Actually Sihyung and Keith were my alarm clock. They were consulting where they should meet so that they wouldn't wake me up.. (Too late dudes.. Anyway, they are such nice guys.)

Feeling so refreshing now.. Ready to chat again :P

Depending on whether I remember Kob's words, I might go to sleep there again tomorrow.

zzzz


ตัวละคร:
กบ เป็นรุ่นน้อง ECE ที่นี่ ปีหน้าจะมาอยู่ research group เดียวกัน ต้องขยันขึ้นซะแล้ว เดี๋ยวอายน้อง
Sihyung and Keith อยู่ research group เดียวกัน Sihyung เป็น PhD ชาวเกาหลี น่ารักดี มี advisor เดียวกัน Keith เป็น undergrad ชาวสิงคโปร์

นายไข่เจียว - เฉลียง

ขอถาม .... เขาถาม
ขอถามเขา เขาเติมอะไรใส่ .... ฉันเติมอะไรลงไปในไข่
เขาตอบ .... ขอตอบ

~~ ใส่ความตั้งใจนั้น และแสนสำคัญจริงใจกับไข่ ~~
..
..
..
.. แม้สิ่งนั้นจะนิดเดียว ... เดียว ... เดียว ... เดียว ...

โดย ประภาส ชลศรานนท์ ต้นตอจาก สรวิศ ณ นคร

กรอบของเวลา

เมื่อเช้าลืมเอานาฬิกามา ปกติจะต้องรู้สึกหงุดหงิดมาก เหมือนไม่ได้ใส่กางเกงออกจากบ้าน จะไม่มั่นใจต้องถามหานาฬิกาทุกๆ 5 นาที (ทั้งๆที่ปกติเวลาใส่นาฬิกาก็ไม่ได้โหยหามันขนาดนั้น -- เอ หรือว่าดูแบบไม่รู้ตัวนะ) อืม นั่นแหละ แต่เมื่อเช้ามันสายแล้วเลยต้องเลยตามเลย

แต่แปลก...
วันนี้ไม่รู้สึกหงุดหงิดแฮะ ไม่ได้ไปอารมณ์ดีมาจากไหนด้วย ช่วงนี้ยิ่งเครียดๆอยู่ ก็เดินมาโรงเรียนไม่ได้ขึ้นรถเพราะไม่รู้เวลา กะเวลารถเมล์มาไม่ถูก เดี๋ยวรอเก้อ ถึงห้องเรียนก็สายเหมือนเดิม แต่ไม่มีความรู้สึกเครียดเหมือนปกติ

ฮึ่ม... แปลกจริง

ตอนเดินมาก็เลยหาสาเหตุ สรุปได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเราชินไปแล้วกับการมาเรียนสาย (อันนี้แย่นะ) เลยไม่ค่อยสนว่าจะเวลาเท่าไหร่แล้ว หรือว่าเราไม่ได้รู้สึกถูกตีกรอบด้วยเวลาและตัวเลขนะ เราก็เลยไม่รู้สึกว่า "ต้อง"ไปให้ถึงห้องเรียนในเวลาเท่านั้นเท่านี้ แล้วต้องรีบเดินให้ทันเวลา ก็เลยทำให้เครียดเพราะเหมือนว่ามันมีจุดหมาย มีข้อจำกัด มีตัวเลขว่าปกติสาย 5 นาที แต่วันนี้ต้องสาย 10 นาทีแน่เลย แย่กว่าเก่า โอย เครียดๆ แต่วันนี้ไม่มีอะไรมาให้เปรียบเทียบ ไม่มีกรอบมาจำกัดเวลาในการเดิน เลยทำให้เดินด้วยความสบายใจขึ้น

สรุปว่าการที่เรามีข้อจำกัด มี deadline หรือการที่เรามีกรอบให้เดินตามเนี่ยมันทำให้เราเครียดได้ เพราะเรานึกไปเองว่าเราเหมือนถูกบีบอยู่ "ต้อง"ทำแข่งกับเวลา "ต้อง"รีบ เราเครียดทั้งๆที่มันไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์มันดีขึ้นเลย

นั่นแหละ ก็มาสายเหมือนเดิม (จะแก้ยังไงดีนะ) แต่ไม่กังวลเหมือนเก่า เลยกำลังคิดว่าจะโยนนาฬิกาทิ้งไปเลยดีไหมเนี่ย
...
...
...

อืม... งงมะ

Tuesday, March 29, 2005

กลอนไม้ม้วน

สืบเนื่องจาก post เมื่อกี้ ทำให้เราสงสัยว่าเค้าเขียนว่า หลับไหล หรือ หลับใหล กันแน่ บังเอิญจำกลอนผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ได้เลือนลาง ไม่กล้าเอามาแปะ ต้องไปหาข้อมูลมาให้แน่ใจก่อน ข้าำพเจ้า้เลยจัดการ Google ดูซะ ปรากฎว่าไปเจออยู่ใน webboard นี้

ที่น่าสนใจนอกจากกลอนผู้ใหญ่นั่นคือรูป มานี มานะ อืมม กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมากๆจริงๆ ก็ลองเข้าไปดูกันนะ น่ารักดี เรายังไม่เคยเห็นหนังสือเรียนแบบใหม่เลยอ่ะ สงสัยต้องไปขอเรียนกับลูกละ

อย่างไรก็ตาม เอากลอนผู้ใหญ่มาแปะให้ค่ะ

ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ มิหลงใหลใครขอดู
จักใคร่ลงเรือใบ ดูน้ำใสและปลาปู
สิ่งใดอยู่ในตู้ มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง
บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี

อืม นับได้ 20 พอดี แต่ไม่เห็นมี"หลับใหล"เลยแฮะ (น้ำไหลใช้ไม้มลาย ห้ามเหมารวม"ไหล"ทั้งหมด) ไม่จริ๊งงง ไม่ยอมนะ งั้นหนูได้ 70

ไม่รู้แหละ ได้ C ก็ยังดี

ภาษาไทย วันละหลายคำ

ไปเอามาจาก Blog พี่ดิน

ทดสอบคำถูกคำผิด

เศร้ามาก ได้ 69 (ว้าว เลขสวยสิ้นดี -- หมกมุ่นๆ) บางคำง่ายๆก็ผิด นึกว่ามันมาหลอกเราว่าอันนี้ดูเหมืือนง่าย คนใช้กันบ่ิอย แต่ผิดชัวร์ น้ำตาลก็เอาเลยค่ะ คำนี้ผิดชัวร์

แป่ว

มันถูกได้ไงฟะ (ตูนึกแล้ว) และที่่น่าเขกหัวตัวเองนั่นคือ เป็นแบบนี้ไม่น้อยกว่า 5 ครั้งใน 5 นาที บ้าไปแล้ว ไม่เกี่ยวกับมาเมืองนอกนะ เดี๋ยวหาว่าเรากระแดะ ถ้่าอยู่เมืองไทยมันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ ก็บางคำมันแบบไม่เคยได้เขียนเลย อืม เหมือนแก้ตัวเลยแฮะ นั่นแหละ

ที่เหลือที่ผิดเนี่ยมาจากความโง่และเอ๋อส่วนบุคคล ไม่ควรเลียนแบบ บางอันไม่รู้จริงๆ เช่นพวกการันต์ บางอันก็ดูผิด คิดเร็วไปหน่อย

อืม คราวหลังต้องใจเย็นกว่านี้ รวมทั้งเรื่องอื่นๆด้วย

แนะนำตัวละคร

(เดี๋ยวงงกัน - จะมีใครอ่านเนี่ยนอกจากเรา)

พ่อกับแม่
ก็พ่อกับแม่นั่นแหละ ใครๆก็มีกัน

พี่หวาน
พี่สาวสุดเลิฟ เป็นหมอฟัน ว่างๆจะเอารูปมาให้ดูถึงความไม่เหมือนกันอย่างรุนแรงของพี่น้อง

พี่อ้น
พี่เขย เป็นหมอคน

ต้นว่าน
หลานของเรา ลูกของเขาแต่เราเห่อมากๆ รักเด็กค่ะ :P

คุณลัคกี้
หรือนังลัคกี้ หรือลัคกี้เฉยๆ เป็นสุนัขพันธุ์ดัชชุนที่อ้วนมากๆ ตอนนี้ท่านแก่แล้วล่ะ นอนเฝ้าสุขศาลาอยู่ขอนแก่นโน่น

สุขศาลา
เป็นชื่อบ้านใหม่เราเอง ย้ายเข้าไปอยู่เมื่อปี 2546

ณัฐ
เป็นรูมเมทสุดเลิฟเมื่อสมัยเรายังเอ๊าะ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังเม้าท์กันเรื่อยๆทาง MSN

หมิง
เป็นเพื่อนเก่าตอนยังเด็กๆ ม.ต้นน่ะ ประมาณกาลครั้งหนึ่งนานมากมาแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังคุยกันอยู่ทาง MSN เหมือนกัน

ตัวละครอื่นๆ เดี๋ยวค่อยแนะนำไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้จะได้พูดถึงบ่อยๆหรือเปล่า

ต้นว่าน

ต้นว่านเป็นชื่อหลานเรา



เป็นลูกชายของพี่หวาน ความจริงเค้าจะให้ชื่อต้นน้ำ เพราะเป็นลูกคนแรก พี่เราชื่อน้ำหวาน พี่เขยชื่ออ้น ก็เข้าท่าดี แต่ชื่อดันไปซ้ำกับญาติของพี่อ้น เราก็เลยบอกว่าชื่อว่านสิ หวาน-ว่าน น่ารักดี ว่านเป็นสมุนไพรด้วย พี่อ้นเป็นหมอคน พี่หวานเป็นหมอฟัน (ไม่เห็นมีใครเป็นหมอยาซักคน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรฟะเนี่ย เอาเหอะ พอถูไถ) นั่นแหละ แต่ว่าพี่เค้าอยากให้มีต้นๆมั้ง พ่อก็เลยบอกว่า งั้นชื่อต้นว่าน

อืม ตั้งชื่อลูกนี่ ยากเหมือนกันแฮะ

ทดลอง ทดลอง

อืม.. นี่มันอะไรเนี่ย

อ่อ พี่อ้อมบอกว่าเป็นกระดานบ่น (ความจริงพี่อ้อมบอกหลายอย่างแต่ถูกใจอันเนี้ย) นั่นแหละ ก็เลยลองมาบ่นๆดู

จะได้บอกใครไหมเนี่ยว่าเรามี Blog